คำถามที่พบบ่อย FAQ

Q: ท่อ PVC คืออะไร?

A: ท่อ PVC คือท่อพลาสติกที่ทำจากวัสดุโพลีไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride) มีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนทานต่อสารเคมี ไม่เป็นสนิม และมีน้ำหนักเบา


 

Q: ท่อ PVC มีกี่ขนาด

A: ท่อพีวีซีมีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็ก 1/2 (4หุน) ไปจนถึงขนาดใหญ่สุด 24 นิ้ว


 

Q: ท่อ PVC แต่ละขนาดเหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

A: ท่อ PVC ขนาดเล็ก (1/2 นิ้ว, 3/4 นิ้ว) มักใช้สำหรับต่อกับก๊อกน้ำ, อ่างล้างหน้า, และสุขภัณฑ์ทั่วไป ส่วนท่อขนาดใหญ่ (1 นิ้ว, 1 1/2 นิ้ว, 2 นิ้ว) มักใช้สำหรับงานระบบประปาหลัก, ท่อน้ำทิ้ง, และท่อระบายน้ำ


 

Q: ราคาท่อพีวีซี

A: ใบราคาท่อพีวีซี ข้อต่อและอุปกรณ์พีวีซี สามารถกดตรงนี้ได้เลยใบราคาท่อPvc 


 

Q: ชั้นคุณภาพ หรือ Class คืออะไร

A: คือ ชั้นความดันของท่อพีวีซี โดยจะเป็นตัวบอกว่าท่อแต่ละชนิดจะสามารถทนแรงดันน้ำได้กี่บาร์ อย่างเช่น ชั้น 5 สามารถรับแรงดันได้ไม่เกิน 5 บาร์ หรือ 13.5 รับแรงดันได้ไม่เกิน 13.5 บาร์ เป็นต้น 


 

Q: ท่อพีวีซียาวกี่เมตร

A: ความยาวของท่อพีวีซี ตั้งแต่ขนาด 1/2 - 24 นิ้ว ความยาวมาตราฐานของท่อ มีความยาว 4 เมตร


 

Q: ท่อ PVC เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

A: ท่อ PVC เหมาะสำหรับงานประปา งานเดินสายไฟ งานระบายน้ำทิ้ง และงานก่อสร้างอื่นๆ การเลือกใช้ท่อ PVC ควรพิจารณาถึงขนาด ชั้นความดัน และสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน 


 

Q: ท่อ PVC ทนความร้อนได้แค่ไหน?

A: ท่อ PVC ทนความร้อนได้ประมาณ 60-65 องศาเซลเซียส (140-150 องศาฟาเรนไฮต์) ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องทนความร้อนสูง เช่น ระบบน้ำร้อน


 

Q: ท่อ PVC ใช้กับน้ำร้อนได้ไหม?

A: ไม่ควรใช้ท่อ PVC กับน้ำร้อน เพราะอาจทำให้ท่ออ่อนตัวและแตกได้


 

Q: ท่อ PVC มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?

A: ท่อ PVC ที่ได้มาตรฐานสามารถใช้งานได้นานหลายสิบปี หากใช้งานอย่างถูกวิธีและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม 


 

Q: ท่อ PVC สีต่างๆ ใช้แทนกันได้ไหม?

A: ท่อ PVC แต่ละสีอาจมีคุณสมบัติและความหนาที่แตกต่างกัน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทงาน


 

Q: ท่อ PVC สีฟ้า,สีเทา,สีเหลือง,สีขาว และสีดำ มีคุณสมบัติและการใช้งานต่างกันอย่างไร?

A: ท่อ PVC สีฟ้า : ใช้งานกับระบบประปาต่าง ๆ อย่างระบบท่อน้ำดี หรือท่อน้ำทิ้ง มีขนาดตั้งแต่ ½ นิ้ว ถึง 24 นิ้ว เหมาะสำหรับใช้เป็นท่อประปาทั่วไป ท่อรับความดัน ท่อระบายน้ำ หากเป็นงานประปาทั่วไปก็จะใช้กันแค่ ½ นิ้ว จนถึง 4 นิ้ว

    ท่อ PVC สีเทา : ใช้ในงานท่อน้ำทิ้ง งานท่อที่รับแรงดันต่ำ เช่น ระบบน้ำในงานเกษตร ใช้ในสวนหลังบ้าน และท่อระบายน้ำทิ้ง ซึ่งท่อสีเทาจะเป็นท่อบาง ๆ ราคาถูก และทนแรงดันน้ำได้น้อย

    ท่อ PVC สีเหลือง : เป็นฉนวนไฟฟ้า ทนต่อรังสี UV ไม่กรอบ หรือแตกหักง่าย ใช้งานกับระบบไฟฟ้า เช่น ร้อยสายไฟ สายโทรศัพท์ มีขนาดระหว่าง ⅜ นิ้ว ถึง 4 นิ้ว สำหรับใช้งานในบ้านทั่วไป ส่วนใหญ่จะใช้ท่อร้อยสายไฟขนาดเล็ก

    ท่อ PVC สีขาว : มีคุณสมบัติคล้ายกับสีเหลือง แต่มีความหยืดหยุ่น ดัดเย็นได้มากถึง 90 องศา โดยใช้สปริงดัดท่อ ไม่ต้องใช้ความร้อน เป็นท่อร้อยสายไฟเช่นเดียวกับท่อสีเหลือง เหมาะกับงานเดินสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ในอาคาร มาตรฐาน JIS

    ท่อ PVC สีดำ : มีความทันสมัย ด้วยเนื้อวัสดุพีวีซีสีดำ แข็งแรงไม่เปราะแตกง่าย ทนต่อความชื้น ไม่เป็นสนิม มาตราฐาน (BS) สามารถนำไปเดินลอยได้ แบบไม่ต้องทาสีทับ สะดวกในการใช้งาน เหมาะกับงานร้อยสายไฟสายโทรศัพท์ งานต่อเติม Renovate สไตล์ Loft


 

Q: ท่อ PVC มีมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือไม่?

A: ท่อ PVC ควรมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) รับรอง เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย อย่างเช่น ท่อน้ำไทยและท่อเอสซีจี ที่มี (มอก.) รับรอง


 

Q: ควรเลือกใช้ท่อประปาประเภทไหนสำหรับบ้านอยู่อาศัยทั่วไป?

A: โดยทั่วไปแล้ว ท่อ PVC สีฟ้า ของท่อน้ำไทย หรือ SCG (ตราช้าง) ชั้น 8.5 หรือ 13.5 เป็นที่นิยมและเหมาะสมสำหรับระบบน้ำประปาในบ้านทั่วไป เนื่องจากมีมาตรฐาน ราคาไม่แพง และติดตั้งง่าย


 

Q: ข้อต่อท่อประเภทต่างๆ มีอะไรบ้าง และมีหลักการเลือกใช้อย่างไร?

A: มีหลากหลาย เช่น ข้อต่อตรง, ข้องอ 45/90 องศา, สามทาง, สี่ทาง, ข้อลด, ปลั๊กอุด, ยูเนี่ยน, วาล์วต่างๆ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของระบบท่อที่ต้องการติดตั้ง, ขนาดท่อ, และฟังก์ชันการใช้งาน


 

Q: ท่อ PPR คืออะไร?

A: ท่อ PPR เป็นท่อที่ผลิตจาก Polypropylene Random Copolymer ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและแรงดันได้ดี เหมาะสำหรับใช้ในระบบประปาและน้ำร้อน 


 

Q: ท่อ PPR มีกี่ประเภท?

A: ท่อ PPR มี 3 ประเภทหลักๆ คือ PN10, PN20, และ PN20 Fiber 

    PN10: ทนแรงดันได้ 10 บาร์ และทนความร้อนได้ 55°C  

    PN20: ทนแรงดันได้ 20 บาร์ และทนความร้อนได้ 95°C 

    PN20 Fiber: ทนแรงดันได้ 20 บาร์ และทนความร้อนได้ 95°C แต่มีชั้น Fiber ช่วยลดการขยายตัวของท่อเมื่อใช้กับน้ำร้อน


 

Q: ท่อ PPR เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

A: ท่อ PPR เหมาะกับการใช้งานทั้งระบบน้ำเย็นและน้ำร้อนในอาคาร รวมถึงสามารถใช้เป็นท่อสำหรับน้ำดื่มได้ 


 

Q: ท่อ PPR เหมาะสมกับงานประเภทใดเป็นพิเศษ และมีข้อดีเมื่อเทียบกับท่อโลหะหรือ PVC อย่างไร? 

A: ท่อ PPR เหมาะสำหรับงานระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นภายในอาคาร ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและแรงดันได้ดีเยี่ยม ไม่เป็นสนิม ไม่เกิดตะกรัน ติดตั้งง่ายด้วยการเชื่อมความร้อน ทำให้รอยต่อเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่รั่วซึม


 

Q: ท่อ PPR สามารถใช้ร่วมกับท่อชนิดอื่นได้หรือไม่?

A: ท่อ PPR สามารถใช้ร่วมกับท่อชนิดอื่นได้ เนื่องจากมีข้อต่อหลากหลายรูปแบบและสามารถเชื่อมต่อกับท่อประเภทอื่นๆ ได้ 


 

Q: ในการติดตั้งท่อ PPR ต้องใช้กาวหรือไม่?

A: ในการติดตั้งท่อ PPR ไม่จำเป็นต้องใช้กาว สามารถเชื่อมท่อด้วยความร้อนได้ 


 

Q: ท่อ PPR กับท่อ PVC ต่างกันอย่างไร?

A: ท่อ PPR มีความทนทานต่อความร้อนและแรงดันสูงกว่าท่อ PVC และมีคุณสมบัติที่ไม่เป็นพิษ แต่ท่อ PPR อาจมีราคาสูงกว่า 


 

Q: ท่อ PPR สามารถงอได้หรือไม่?

A: ท่อ PPR สามารถงอได้ แต่ควรใช้เครื่องดัดท่อเพื่อความแม่นยำ และรัศมีการดัดไม่ควรน้อยกว่า 5 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ


 

Q: ข้อดีของท่อ PPR คืออะไร?

A: ท่อ PPR มีข้อดีหลายประการ เช่น ทนทานต่อการกัดกร่อน, ปลอดสารพิษ, ทนต่ออุณหภูมิสูง, ผนังด้านในเรียบ, และมีความแข็งแรงสูง 


 

Q: ท่อ PPR สามารถฝังดินได้หรือไม่?

A: ท่อ PPR สามารถฝังดินได้ แต่ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น คุณภาพของท่อ, วิธีการติดตั้ง, และสภาพแวดล้อม 


 

Q: ท่อ PE และท่อ HDPE ต่างกันอย่างไร?

A: จริงๆ แล้ว ท่อทั้งสองชนิดนี้คือวัสดุเดียวกัน โดยคำว่า HDPE เป็นชื่อเต็มของท่อ PE ที่มีความหนาแน่นสูงกว่า โรงงานผลิตท่อ HDPE ทำให้มีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงดันมากกว่า PE ทั่วไป 


 

Q: ท่อ PE เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

A: ท่อ PE มีความยืดหยุ่นสูงและทนทานต่อสภาพแวดล้อม เหมาะสำหรับงานเกษตร เช่น ระบบน้ำหยด, การรดน้ำต้นไม้, และระบบรดน้ำในโรงเรือน ส่วนท่อ HDPE ที่มีความหนาแน่นสูง มักถูกนำไปใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแรง เช่น งานประปา, ระบบท่อในอาคาร, และงานอุตสาหกรรม 


 

Q: ท่อสำหรับงานเกษตรกรรม เช่น ระบบน้ำหยด หรือระบบสปริงเกลอร์ ควรเลือกประเภทใด?

A: ท่อ PE หรือ HDPE เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง สามารถโค้งงอได้ ติดตั้งง่าย ทนทานต่อสารเคมี ปุ๋ย และสภาพอากาศ


 

Q: ท่อ PE มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?

A: ท่อ PE และ HDPE มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยทั่วไปอยู่ที่ 50-100 ปี ทำให้เป็นทางเลือกที่ทนทานและคุ้มค่า 


 

Q: ท่อ PE สามารถใช้เป็นท่อน้ำดื่มได้หรือไม่?

A: ท่อ PE ที่ผลิตได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถนำมาใช้เป็นท่อน้ำดื่มได้อย่างปลอดภัย 


 

Q: ท่อ PE มีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง?

A: ท่อ PE มีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง เช่น ทนทานต่อแรงกระแทก, ทนทานต่อสารเคมี, ทนทานต่ออุณหภูมิที่หลากหลาย, และมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถดัดโค้งได้ง่าย 


 

Q: การเลือกใช้บอลวาล์ว (Ball Valve) หรือประตูน้ำ (Gate Valve) ควรพิจารณาจากอะไร?

A:บอลวาล์ว: เปิด-ปิดได้รวดเร็ว, มีความทนทานสูง, เหมาะสำหรับงานที่ต้องการเปิด-ปิดน้ำบ่อยๆ ประตูน้ำ: เปิด-ปิดช้ากว่า, เหมาะสำหรับงานที่ต้องการควบคุมการไหลของน้ำอย่างละเอียด หรือเปิด-ปิดไม่บ่อยนัก


  

Q: Pokawin.com มีที่ตั้งสาขาอยู่ที่ไหนบ้าง?

A: เรามี 2 สาขา ได้แก่ สาขาจรัญสนิทวงศ์ 29 (โทร 02-866-5653-5, 086-314-6317) และสาขาพุทธมณฑล สาย 2 (โทร 02-865-4534-6, 086-314-6315-6)


 

  •  

สาระน่ารู้