ท่อพีวีซีปลายธรรมดากับปลายบานต่างกันอย่างไร

"ท่อพีวีซีปลายธรรมดา - ปลายบาน - แหวนยาง" เลือกให้เหมาะ ใช้งานได้ยาวนาน

การเลือกใช้ท่อพีวีซีให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ระบบประปาแข็งแรง ทนทาน ไม่รั่วซึมง่าย ซึ่งท่อพีวีซีที่นิยมใช้งานในบ้านเรามี 3 แบบหลัก ๆ ได้แก่ ปลายธรรมดา, ปลายบาน, และแบบแหวนยาง แล้วแต่ละแบบต่างกันอย่างไร? เหมาะกับงานแบบไหน? มาดูกันเลยครับ


1. ท่อพีวีซี ปลายธรรมดา

ลักษณะ: ปลายทั้งสองด้านตรงเท่ากัน

วิธีต่อ: ใช้น้ำยาประสานท่อพีวีซี ร่วมกับข้อต่อต่าง ๆ

คุณสมบัติของท่อพีวีซี ปลายธรรมดา:

1.ทนทานต่อแรงดันและแรงกด ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม มีความเหนียวยืดหยุ่นตัวดีและผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมจึงสามารถทนแรงดันน้ำภายในท่อและแรงกดนอกเส้นท่อได้เป็นอย่างดี

2.ทนต่อสภาพกรดด่าง ไม่ทำปฏิกิริยากับกรดและด่างอ่อน จึงหมดปัญหาเรื่องสนิมกัดกร่อน ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

3.ปลอดภัยจากสารพิษ ปราศจากสารพิษ น้ำที่ได้จึงไม่มีสารปนเปื้อนและไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น รส

4.เป็นฉนวนไฟฟ้า เป็นท่ออโลหะ จึงไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า เมื่อเกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว และไม่ลามไฟเมื่อเกิดไฟไหม้

5.ทนทานต่อแสงแดด มีส่วนผสมของไทเทเนี่ยมไดออกไซด์ ในปริมาณที่เหมาะสม จึงป้องกันรังสี UV ได้เป็นอย่างดี ไม่กรอบหรือแตกหักง่าย

6.ไม่เป็นสนิม ไม่รั่ว ไม่เปราะ ด้วยคุณสมบัติพิเศษของพีวีซี ทำให้ท่อพีวีซี ไม่เป็นสนิมหรือเปราะง่าย

7.มาตรฐาน มอก. ได้รับการับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เลขที่ มอก. 17-2561

8.น้ำหนักเบา กว่าท่อเหล็กชุบสังกะสีถึง 5 เท่า สะดวกในการขนส่งและติดตั้ง

ขั้นตอนการต่อประกอบท่อพีวีซี ปลายธรรมดา:

1.ตัดท่อให้ได้ฉากและระยะตามต้องการ โดยใช้เลื่อยตัดโลหะหรือกรรไกรตัดท่อ

2.ใช้ตะไบละเอียดลบมุมปลายท่อโดยรอบให้มีความลาดเอียงประมาณ 15 องศา

3.วัดระยะความลึกในการสวมท่อเข้ากับข้อต่อ

4.ใช้น้ำยาทำความสะอาดท่อพีวีซี เช็ดทำความสะอาดด้านในข้อต่อและปลายท่อให้ปราศจากคราบน้ำมัน ฝุ่น และความชื้น

5.ทาน้ำยาประสานท่อพีวีซีที่ผิวด้านในข้อต่อให้ทั่วก่อนแล้วจึงทาผิวด้านนอกของท่อ

6.สวมปลายท่อเข้ากับข้อต่อแล้วกดเข้าไปจนถึงเครื่องหมายที่ทำไว้จากนั้นกดท่อที่ต่อไว้อีก 15 นาที

7.เช็ดน้ำยาประสานท่อพีวีซีที่ล้นออกมาแล้วทิ้งไว้ให้แข็งตัวประมาณ 10 นาที ก่อนเริ่มใช้งาน

เหมาะกับงาน:

1.งานประปาภายในบ้าน

2.ระบบที่ไม่ต้องถอดหรือเคลื่อนย้ายบ่อย

3.งานที่ต้องการความเรียบสวยของแนวท่อ

ข้อดี: ราคาย่อมเยา หาง่าย ต่อแน่นหนาด้วยกาว
ข้อควรระวัง: หากติดตั้งผิดหรือรั่ว ต้องตัดเปลี่ยนทั้งท่อน


2. ท่อพีวีซี ปลายบาน

ลักษณะ: ปลายท่อด้านหนึ่งจะบานออก เพื่อเสียบท่ออีกเส้นเข้าไปได้เลย

วิธีต่อ: ใช้น้ำยาประสานท่อพีวีซี เช่นเดียวกับปลายธรรมดา 

คุณสมบัติของท่อพีวีซี ปลายธรรมดา:

1.ทนทานต่อแรงดันและแรงกด ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม มีความเหนียวยืดหยุ่นตัวดีและผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมจึงสามารถทนแรงดันน้ำภายในท่อและแรงกดนอกเส้นท่อได้เป็นอย่างดี 

2.ทนต่อสภาพกรดด่าง ไม่ทำปฏิกิริยากับกรดและด่างอ่อน จึงหมดปัญหาเรื่องสนิมกัดกร่อน ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนาน 

3.ปลอดภัยจากสารพิษ ปราศจากสารพิษ น้ำที่ได้จึงไม่มีสารปนเปื้อนและไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น รส

4.เป็นฉนวนไฟฟ้า เป็นท่ออโลหะ จึงไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า เมื่อเกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว และไม่ลามไฟเมื่อเกิดไฟไหม้

 5.ทนทานต่อแสงแดด มีส่วนผสมของไทเทเนี่ยมไดออกไซด์ ในปริมาณที่เหมาะสม จึงป้องกันรังสี UV ได้เป็นอย่างดี ไม่กรอบหรือแตกหักง่าย

 6.ไม่เป็นสนิม ไม่รั่ว ไม่เปราะ ด้วยคุณสมบัติพิเศษของพีวีซี ทำให้ท่อพีวีซี ไม่เป็นสนิมหรือเปราะง่าย

 7.มาตรฐาน มอก. ได้รับการับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เลขที่ มอก. 17-2561

 8.น้ำหนักเบา กว่าท่อเหล็กชุบสังกะสีถึง 5 เท่า สะดวกในการขนส่งและติดตั้ง

 ขั้นตอนการต่อประกอบท่อพีวีซี ปลายธรรมดา:

 1. ตัดท่อให้เรียบ ใช้เลื่อยตัดท่อให้ได้ความยาวที่ต้องการ แล้วลบคมปลายท่อด้วยกระดาษทรายหรือมีด เพื่อป้องกันกาวไม่เกาะหรือท่อเสียบไม่เข้า

 2. ทำความสะอาดปลายท่อ ใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นหรือเศษผงออกจากปลายท่อทั้งสองด้าน โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องทากาว 

 3. ทาน้ำยาประสานท่อใช้แปรงทาลงบนท่อ ปลายธรรมดา และ ด้านในของปลายบาน ให้ทั่วและสม่ำเสมอ อย่าทากาวหนาเกินไป เพราะอาจทำให้ล้นออกมาเมื่อเสียบท่อ

4. เสียบท่อเข้าหากัน เสียบท่อปลายธรรมดาเข้าปลายบานทันทีในขณะที่กาวยังเปียกอยู่ ดันให้สุด ระยะลึกประมาณ 2.5 - 3 ซม. แล้วหมุนเล็กน้อยเพื่อให้แนบสนิท 

5. จับให้แน่นจนกว่ากาวจะแห้ง รอประมาณ 30 วินาที - 1 นาที โดยจับให้อยู่นิ่ง ๆ ไม่ให้ท่อเด้งกลับหรือเคลื่อน แล้วทิ้งไว้ให้แข็วตัว 15-30 นาที

เหมาะกับงาน:

1.งานเดินท่อระยะทางไกล ๆ 

2.งานที่ต้องการความรวดเร็วในการต่อ

3.ลดจำนวนข้อต่อ

ข้อดี: ลดจำนวนข้อต่อได้ ช่วยให้แรงดันน้ำไม่สะดุด
ข้อควรระวัง: ต้องเลือกขนาดให้ตรง เพราะแต่ละปลายจะบานเฉพาะขนาดเดียว


3. ท่อพีวีซี แบบแหวนยาง (ท่อปากระฆัง)

ลักษณะ: ปลายบานมีร่องใส่ยางกันน้ำ (O-Ring) สำหรับเสียบท่อโดยไม่ต้องใช้กาว

คุณสมบัติของท่อพีวีซี ชนิดต่อด้วยแหวนยาง: 

1.เพิ่มความแข็งแรงเป็นพิเศษบริเวณหัวต่อ ผลิตด้วยกรรมวิธีที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.17-2561 โดยเพิ่มความหนาบริเวณปลายท่อที่นำไปบานแหวนยาง จึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพความทนทานแรงดันของหัวต่อ

2.หมดปัญหาการรั่วซึม มีหัวต่อแบบ Hip Up Rubber Ring Socket จึงป้องกันไม่ให้แหวนยางหลุดออกเมื่อสอดท่อเข้าไป นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาแหวนยางให้มีหน้ากว้างมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการรั่วซึม

3.ทนทานต่อความดัน ผ่านการทดสอบความดันที่ 36 เท่า ของความดันใช้งาน โดยไม่เกิดการแตกร้าวรั่วหรือทะลุ และสามารถรับแรงทนทานต่อความดันไม่ต่ำกว่า 2.1 เท่า ของความดันใช้งานตลอดระยะเวลา 50 ปี

4.ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพ มีความยืดหยุ่นตัวมากกว่าท่อชนิดอื่น ๆ สามารถลดอุบัติเหตุท่อแตกร้าวหรือรั่วซึมจากการทรุดตัวของชั้นดิน หรือมีแรงกดทับจากการเคลื่อนที่บนผิวดินตลอดแนวช่วงต่อของท่อ

5.ติดตั้งง่าย สะดวก และรวดเร็ว การประกอบท่อและข้อต่อพีวีซี ชนิดต่อด้วยแหวนยาง ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน จึงประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา

ขั้นตอนการต่อประกอบท่อพีวีซี ชนิดต่อด้วยแหวนยาง: 

1.เครื่องมือและอุปกรณ์ประกอบที่ใช้ในการต่อประกอบท่อ เช่น ปากกา เลื่อย ตลับเมตร น้ำยาทำความสะอาดท่อ น้ำยาหล่อลื่น ตะไบ ผ้า และ Puller

2.กรณีที่ต้องตัดท่อ ให้ทำเครื่องหมายระยะที่ต้องการตัด ให้ได้ฉากกับแนวแกนท่อ

3.ตัดท่อด้วยเลื่อยช่างไม้ หรือ เลื่อยตัดโลหะ หรือ Tubing Cutting

4.ใช้ตะไบละเอียดแต่งรอยตัดให้เรียบและลบมุมปลายท่อโดยรอบ มีความลาดเอียงประมาณ 15 องศา

5.ใช้น้ำยาทำความสะอาดท่อพีวีซีทำคว่ามสะอาดปลายท่อที่จะสวมใส่และบริเวณแนวร่องแหวนยาง

6.ใส่แหวนยางเข้าไป โดยบีบแหวนยางให้เป็นรูปหัวใจดังภาพและหันด้านที่โตกว่าไว้ข้างในท่อ

7.ทาน้ำยาหล่อลื่นบริเวณปลายท่อ และด้านในหัวต่อ

8.ต่อท่อเข้าด้วยกันโดยใช้ Puller

9.เมื่อท่อถูกต่อเข้าด้วยกันแล้ว ตรวจดูว่าท่อต่อถึงบริเวณที่ขีดเครื่องหมายไว้หรือไม่ โดยใช้ Check Gauge ตรวจดูว่าแหวนยางอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่

เหมาะกับงาน:

1.งานวางท่อขนาดใหญ่และมีแนวตรง

2.ระบบที่ต้องมีการขยับหรือทรุดตัวของดิน

3.งานที่ต้องการถอด/ย้ายภายหลังได้ง่าย

4.งานวางท่อในดิน งานระบายน้ำภายนอก

ข้อดี: ถอดเปลี่ยนซ่อมบำรุงง่าย ไม่ต้องใช้กาว
ข้อควรระวัง: ต้องเสียบให้แน่น และตรวจสอบยางกันรั่วก่อนใช้งาน 


สรุป

สรุปการเลือกใช้งาน

- ใช้งานทั่วไปภายในบ้าน → เลือก ปลายธรรมดา

- งานเดินท่อระยะยาว งานเกษตร → เลือก ปลายบาน

- งานระบบน้ำภายนอกหรือใต้ดิน งานวางท่อขนาดใหญ่ → เลือก แบบแหวนยาง เพื่อความทนทานและถอดซ่อมง่าย