เลือกท่อแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน
ท่อ PVC vs ท่อ PE ต่างกันอย่างไร?
ในการเลือกท่อสำหรับงานประปาและระบบส่งน้ำ หลายคนอาจสงสัยว่าควรเลือก ท่อ PVC หรือ ท่อ PE ดี เพราะทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันและเหมาะกับการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่าง ข้อดี-ข้อเสีย และแนวทางการเลือกใช้ท่อแต่ละประเภท เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ท่อพีวีซี PVC
✅ ท่อ PVC คืออะไร?
ท่อ PVC (Polyvinyl Chloride) เป็นท่อที่ทำจากพลาสติกแข็ง มีน้ำหนักเบา ราคาประหยัด และนิยมใช้ในงานระบบประปา ระบบระบายน้ำ และงานเกษตรกรรม
คุณสมบัติของท่อ PVC
• แข็งแรง ทนทาน ไม่แตกหักง่าย
• ทนต่อสารเคมี เช่น กรด-ด่าง ได้ดี
• น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
• ราคาถูกกว่าท่อประเภทอื่น
การใช้งานที่เหมาะสมของท่อ PVC
• งานประปาภายในบ้าน (น้ำเย็นเท่านั้น)
• ระบบระบายน้ำทิ้ง
• ระบบท่อน้ำฝน
• งานเกษตรกรรม
ข้อดีของท่อ PVC
• ราคาย่อมเยา
• หาซื้อง่าย มีหลายขนาดให้เลือก
• ติดตั้งง่าย ใช้กาวเชื่อมประสาน
ข้อเสียของท่อ PVC
• ไม่ทนความร้อนสูง (ใช้ได้ไม่เกิน 60°C)
• แตกเปราะง่ายเมื่อโดนแรงกระแทกแรงๆ
• ไม่เหมาะกับระบบน้ำดื่มที่มีความร้อน
ท่อเอชดีพีอี HDPE
✅ ท่อ PE คืออะไร?
ท่อ PE (Polyethylene) เป็นท่อที่ทำจากพลาสติกชนิดอ่อน มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงดันและแรงกระแทกได้ดี เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานและความยืดหยุ่น
คุณสมบัติของท่อ PE
• ยืดหยุ่นสูง ไม่แตกง่าย
• ทนต่อแสงแดดและสารเคมี
• ทนแรงดันน้ำได้สูง
• ปลอดสารพิษ เหมาะกับระบบน้ำดื่ม
การใช้งานที่เหมาะสมของท่อ PE
• ระบบน้ำประปากลางแจ้ง (เหมาะสำหรับงานที่ต้องฝังดิน)
• ระบบน้ำดื่มและน้ำอุปโภค
• ระบบน้ำเกษตร เช่น ระบบน้ำหยด
• งานอุตสาหกรรมที่ต้องการความยืดหยุ่น
ข้อดีของท่อ PE
• ทนความร้อนได้สูงกว่า PVC (ประมาณ 80°C)
• ยืดหยุ่น ไม่แตกง่าย
• ปลอดภัย ใช้กับน้ำดื่มได้
• อายุการใช้งานยาวนาน
ข้อเสียของท่อ PE
• ราคาสูงกว่าท่อ PVC
• ติดตั้งยากกว่า ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ